ความรัก โชคชะตา แรงอธิษฐาน

ความรัก โชคชะตา แรงอธิษฐาน

   ผมยังจำวันแรกที่เจอเธอได้ดี ผมเรียนปวช.เธอเรียนมัธยม ความหมายของคำว่า "รักแรกพบ" กระจ่างขึ้นในใจผมทันที เธอเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมา ในวินาทีนั้น เหมือนโลกทั้งโลก มีแค่เราสองคน ศรแห่งรักแรกพบปักลงกลางใจผมทันที เสียงที่มันดังขึ้นภายในใจ มันกระซิบดังๆ ว่าผู้หญิงคนนี้ คือ คนที่ "ใช่"
   การที่ได้รับรู้ว่า เธอมีคนที่ชอบพออยู่แล้ว มันคือความทุกข์ทางใจครั้งแรกที่ผมได้รับ ผมนั่งคุยกับหัวใจตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ว่าผมควรจะตัดใจจากเธอรึเปล่า คำตอบที่ผมได้รับคือ ความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม เป็นสิ่งที่หาได้ยาก เป็นสิ่งที่ควรเก็บรักษาไว้ เมื่อผมได้เจอแล้ว ผมควรจะยินดีและเก็บรักษาความรักนั้นไว้ให้ดี
   ในช่วงสองสามปีที่เรียนปวช. ผมได้เจอเธอบ้าง แต่ไม่บ่อย บังเอิญบ้าง ตั้งใจไปรอบ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นท่ารถ บขส.ที่เธอนั่งกลับบ้าน ตลอดช่วงเวลาสามปีที่เจอกัน จะเรียกว่าทุกข์ก็ทุกข์ เพราะเราไม่เคยได้คุยกันแม้สักครั้งเดียว แต่ก็นั่นแหล่ะ จะเรียกว่าสุขก็สุข เพราะการได้เห็นหน้ากับรอยยิ้มของเธอ มันไม่มีคำพูดใดมาอธิบายได้
   จวบจนผมมีโอกาสมาเรียนในเมืองหลวง ด้วยความเรียกร้องของหัวใจ ทำให้ผมตัดสินใจไปหาเธอเป็นครั้งแรก น้ำเสียงของเธอที่ได้ยินเป็นครั้งแรก เหมือนเสียงของนางฟ้าที่เปล่งออกมาให้เราได้ยิน มันเหมือนเป็นมนต์ที่เป่าให้เราหลงใหล ความรักที่มีมากอยู่แล้วมันยิ่งมากขึ้นทวีคูณ แน่นอนว่าการเจอกันในครั้งนี้ ผมคงเก็บความรู้สึกไว้ไม่ได้แน่ๆ ผมตัดสินใจบอกความในใจให้เธอได้รับรู้ โดยที่หวังแค่ให้เธอรับรู้ไว้ ซึ่งมันก็แค่นั้น เธอแค่รับรู้ไว้จริงๆ...
   หลายเดือนต่อมา ผมเขียนจดหมายไปหาเธอ เพื่อขอให้เธอกากบาทในช่องใดช่องหนึ่ง ระหว่างยอมรับหรือปฏิเสธ เธอปฏิเสธผมด้วยจดหมายที่ตอบกลับมาพร้อมกับรูปถ่ายของเธอหนึ่งใบ ความทุกข์ที่เรียกว่า ความเสียใจ อกหัก การพลาดรัก หรืออะไรก็ตามแต่ ผมก็ได้รับมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ผมยังจำความเสียใจครั้งนั้นได้เป็นอย่างดี ความโศกเศร้ากัดกร่อนใจมาจนกระทั่งทุกวันนี้ ความเสียใจมันบังคับให้ผมสะกดคำว่า ตัดใจ ลืม มองไปข้างหน้า หรือคำพูดอื่นใด ที่มันจะทำให้ให้ผมทำใจได้
   20 ปีที่ผ่านไป ผมคอยบอกตัวเองอยู่เสมอ ว่าเธอคงไม่ใช่เนื้อคู่เรา เราคงมีบุญร่วมกันแค่นี้ ถึงจะเสียใจที่เธอปฏิเสธ แต่ก็ไม่เคยโกรธหรือเกลียดเธอเลย ดีใจที่เกิดมาได้เจอเธอ และยังได้รู้จักกับคุณค่าของความรัก ถือว่าเป็นสิ่งที่มีค่าในชีวิตเรามากแล้ว...
...
   เหมือนโชคชะตาบันดาลจริงๆ สิ่งที่คิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ ก็เป็นไปได้ ผมบังเอิญเจอเธออีกครั้ง ตอนอายุ 40 ย้ำอีกครั้งก็ได้ว่าบังเอิญ ความรู้สึกในตอนนี้มันสับสนอย่างบอกไม่ถูก หวนคำนึงถึงแรงอธิษฐานในตอนที่เธอปฏิเสธความรัก ว่าขอให้เราได้มาเจอกันในตอนอายุ 40 มันเป็นเรื่องบังเอิญอย่างเหลือเชื่อ หรือเป็นเพราะผมเข้าข้างตัวเอง เธอเคยแต่งงานมาแล้ว ตอนนี้เธอมีลูก 1 คน และตอนนี้เธอไม่มีใคร ถึงจะดีใจที่ได้เจอ แต่ก็อดสงสารไม่ได้ ในความคิดของผมคิดว่าเธอน่าจะมีชีวิตครอบครัวที่ดีกว่านี้ ทั้งแปลกใจ ดีใจ สงสาร และสับสน
   เหตุที่รู้สึกสับสน แปลกใจ และรวมทั้งดีใจ
     -เมื่อตอน ปวช. ผมเคยขอกับสิ่งศักดิ์ประจำจังหวัด ผมขอตรงๆ ด้วยการขอผู้หญิงคนนี้ ซึ่งในใจจริงๆก็บอกว่า ไม่น่าจะใช่ตอนนั้น (ตอนที่ขอ)
     -เคยอธิษฐาน ตอนที่เธอฏิเสธ ว่าขอให้ได้เจอเธอ ตอนอายุ 40 และขอให้เธอไม่มีใคร
     -ผมอาจจะคิดไปเอง แต่ในความรู้สึกลึกๆ มันบอกว่าไม่วันใดก็วันหนึ่ง ผู้หญิงคนนี้จะต้อง "ใช่" แต่ผมก็หาหลักฐานมายืนยันความรู้สึกไม่ได้
     -ตลอดอายุ 40 ปี ผมก็ยังไม่ได้แต่งงานเลย ยิ่งทุกวันนี้ยิ่งแน่ใจ ว่าถ้าไม่ได้แต่งกับเธอ คงไม่แต่งกับใคร
  ทุกวันนี้ ผมมีโอกาสได้คุยกับเธอบ้าง แต่บ่อยขึ้น มีโอกาสได้เจอบ้าง แววตาที่ผมได้เห็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี ก็เหมือนเธอเมื่อยี่สิบปีก่อนทุกประการ ความรักที่ผมมีให้ก็ไม่เคยน้อยลงเลย กลับมากขึ้นด้วยซ้ำไป นอกเหนือจากความรักที่มีต่อเธอแล้ว ทุกวันนี้ ผมก็ไปยังคงขอพรกับสิ่งศักสิทธิ์ในด้านความรัก ในทุกๆสถานที่ ที่ควจจะไป
   ในการขอพรกับสิ่งศักสิทธิ์ ผมก็หวังว่าจะเป็นอีกแรงหนึ่ง ที่จะทำให้เธอมองเห็นความรักที่ผมมีให้เธอ ถึงแม้ว่าจริงๆแล้ว ในชาตินี้เธอจะเห็น หรือไม่เห็น จะยอมรับผม หรือปฏิเสธอีกครั้ง แต่ผมเกิดมาได้เจอเธอ ได้เจอความรักที่สวยงาม ผมก็จะทำหน้าที่....ดูแลความรักนี้ให้ดีที่สุด เพราะเธอไม่ใช่แค่คนที่ผมรัก แต่เธอคือ...ดวงใจของผม.
                                                                                                                                                                  
                                                                                                                                                                          ...จ.ใจเดียว...

-ปัจฉิมลิขิต- เคยพูดกับเธอเล่นๆว่า ถ้าได้แต่งงานกัน จะผูกเชือกรองเท้าให้เธอทุกวัน แน่นอนครับ ผมทำได้อยู่แล้ว.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่